การสำรวจสถานภาพประเภทสินค้าอุตสาหกรรมแฟชั่นสิ่งทอต่าง ๆ


อุตสาหกรรมสิ่งทอของไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าเครื่องนุ่งห่มของไทยในปี 2554 มีมูลค่า 3,274.99 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2553 ร้อยละ 2.16 เนื่องจากราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น อันเป็นผลจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อราคาต้นทุน รวมถึงการที่ผู้ประกอบการเครื่องนุ่งห่มไทยได้รับคำสั่งซื้อจากผู้นำเข้าสินค้ายุโรป การส่งออกสินค้าเครื่องนุ่งห่มไทยไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนเริ่มจะมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากผลประโยชน์จากข้อตกลง AFTA และ JTEPA อันมีผลทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าเครื่องนุ่งห่ม ไปยังญี่ปุ่นขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การสำรวจสถานภาพพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย พ.ศ. 2554 พบว่ากลุ่มธุรกิจแฟชั่น เครื่องแต่งกาย อัญมณีและเครื่องประดับ มีมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในรอบปีที่ผ่านมา จำนวน 20,073 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.9 ของมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์โดยรวมทั้งประเทศ นอกจากนี้อุตสาหกรรมแฟชั่น เครื่องแต่งกาย อัญมณีและเครื่องประดับยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจ ในรูปแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์คิดเป็นร้อยละ 32.3 ของจำนวนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมทั้งหมด ของประเทศ ซึ่งสูงเป็นอันดับ 1 เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับจำนวนผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น โดยประเทศไทยเป็นแหล่งการผลิตสิ่งทอ เครื่องแต่งกาย อัญมณี เครื่องประดับและผลิตภัณฑ์เครื่องหนังที่มีคุณภาพ เนื่องจากศักยภาพในการผลิตของฝีมือแรงงานไทยมีความละเอียดและประณีต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมแฟชั่น เครื่องแต่งกาย อัญมณีและเครื่องประดับเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีศักยภาพเพียงพอ ที่จะผลักดันส่งเสริมธุรกิจในรูปแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความเข้มแข็งให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการ ในต่างประเทศได้

ในปัจจุบันธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น เครื่องแต่งกาย อัญมณี และเครื่องประดับมีศักยภาพสูงขึ้น การทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ในวงกว้าง และเป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์ที่สามารถเชื่อมโยงในระดับชาติและนานาชาติ จึงถือได้ว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบซื้อมาขายไปให้พัฒนาไปสู่การเป็นเจ้าของตราผลิตภัณฑ์เอง และการดำเนินการที่ครบวงจร ทั้งการนำเสนอการขาย การสั่งซื้อ การชำระเงิน และการขนส่ง นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังเน้นในคุณภาพของสินค้าและการสร้างความพึงพอใจควบคู่กับการให้ความรู้ด้านการใช้บริการเว็บไซต์แก่ลูกค้าไปพร้อมๆกัน เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยและยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ของการซื้อสินค้ารูปแบบนี้มากขึ้น